Blog page

ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับการทำงาน




5 แนวคิดที่จะทำให้ชีวิตและการทำงานมีความสุข
‘Work-Life Balance’ จึงเป็นเรื่องที่หลายคนพยายามทำแต่ไม่เคยสำเร็จ เพราะมันไม่เคยง่ายและไม่มีสูตรตายตัว แถมความยากง่ายของชีวิตแต่ละคนก็ยังไม่เหมือนกัน แต่อย่าเพิ่งท้อ การจะพยายามทำทุกอย่างให้สมดุลอย่างยั่งยืนนั้นอาจไม่ได้ใช้เวลาชั่วข้ามคืน แต่มันจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะมันไม่ใช่การตัดสิ่งหนึ่งเพื่อเลือกทำสิ่งหนึ่ง แต่มันคือการทำหลายสิ่งไปพร้อมกันอย่างกลมกลืน


1. Work-Life Balance ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงของชีวิต เมื่อเราลองพิจารณาชีวิตตัวเอง จะพบว่าในแต่ละช่วงของชีวิตเรามีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ เรื่องที่สนใจ เรื่องที่ต้องทำให้ดีแตกต่างกัน ในสมัยเริ่มทำงาน เราอาจมีแค่งานกับชีวิตส่วนตัวที่ต้องทำให้ดี ช่วงนั้นเราอาจแค่ทำงานกับการออกกำลังกายหรืองานอดิเรก จนเวลาผ่านไป เรามีคนรักและวางแผนจะสร้างครอบครัว ความรับผิดชอบในชีวิตเราอาจเป็นส่วนผสมของงาน ชีวิตส่วนตัว และความสัมพันธ์ และสุดท้ายเมื่อเราดูแลตัวเองได้ ปัจจัยในชีวิตที่เราต้องดูแลเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างคือการรับผิดชอบพ่อแม่ ในขณะที่ส่วนประกอบด้านอื่นๆ ของชีวิตก็ยังคงอยู่ สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่าจุดสมดุลของแต่ละช่วงอายุของเราคือตรงไหน แล้วเราค่อยๆ ปรับไปให้ได้ตามนั้น บาลานซ์ที่เป็นคำตอบของวันนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบของวันพรุ่งนี้ก็ได้


2. Work-Life Balance ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของงานและวัฒนธรรมองค์กร งานบางงานอาจมีลักษณะที่เรียกร้องให้เราต้องอุทิศเวลาทั้งหมดให้โดยไม่สามารถแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นได้ การที่จะปลีกเวลาไปดูแลชีวิตด้านอื่นๆ จึงไม่สามารถทำได้จริง เพราะงานอาจต้องการคนที่สามารถรับมือกับความเครียดและกดดันได้ตลอดเวลา ต้องอยู่หามรุ่งหามค่ำเพื่อทำงานออกมาให้ทัน หรือต้องใช้ชีวิตตอนกลางคืน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ใช่งานที่ดี ถ้าสุดท้ายอยากทำงานนี้อาจลองถามตัวเองดูว่าคุ้มไหมที่จะแลกชีวิตส่วนตัวทั้งหมดเพื่อให้ได้ทำงานนี้ ลองพิจารณาประสิทธิภาพทั้งร่างกายและจิตใจว่าเราสู้ได้ไหม เงื่อนไขชีวิตของเราตอนนั้นสามารถทำงานนี้ได้หรือเปล่า เพราะการที่เราได้เห็นข้อจำกัดเรื่องเวลาหรือข้อเสียที่เราไม่สามารถสร้างสมดุลให้กับชีวิตตั้งแต่ต้นและเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า งานนี้ที่ไม่มี Work-Life Balance นี้อาจเป็นงานที่เหมาะกับเราก็ได้


3. Work-Life Balance ขึ้นอยู่กับวิธีการทำงาน ด้วยเทคโนโลยีของทุกวันนี้เอื้อเราสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลามากขึ้น จึงมีอีกแนวคิดหนึ่ง คือ ‘Work-Life Integration’ เราสามารถผสมกลมกลืนชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวโดยที่ไม่แยกขาดออกจากกัน เช่น ในขณะที่เลิกงานแล้วและใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว เราก็สามารถตอบลูกค้าหรือคุยงานเล็กๆ น้อยๆ ทางโทรศัพท์มือถือเพื่อให้งานดำเนินต่อไปได้โดยที่เราไม่ต้องมุ่งหน้าเข้าออฟฟิศ หรือในขณะเดียวกันเวลาทำงาน เราก็สามารถใช้โซเชียลมีเดียสอบถามสารทุกข์สุขดิบของพ่อแม่ได้บ้างตามความเหมาะสม เพียงแต่การทำตามแนวคิดนี้อาจจะสุ่มเสี่ยงอยู่ตรงที่เมื่องานและชีวิตรวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียวจนเราไม่สามารถแยกชีวิตส่วนตัวและการทำงานออกได้อย่างชัดเจน เมื่อนั้นสมดุลของเราอาจจะเสีย สิ่งสำคัญคือการที่เราต้องรู้จักตัวเองว่าขณะนี้เรากำลังทำอะไรและอยู่ในบทบาทไหนเป็นหลัก ถ้าเป็นเวลางานเราก็ควรอยู่ในฐานะพนักงานออฟฟิศที่ต้องทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ และเมื่ออยู่นอกเวลางาน หลักใหญ่ใจความของเราคือการต้องมีชีวิตส่วนตัวที่ดี เป็นลูกและเป็นคนรักที่ดี การเตือนตัวเองอยู่บ่อยๆ แบบนี้ก็อาจทำให้ชีวิตและการทำงานของเรามี ‘Work Life-Integration’ ที่ดีได้


4. Work-Life Balance ขึ้นอยู่กับการให้ความสำคัญ เอาเข้าจริงแล้วการทำให้ชีวิตเรื่องงานสมดุลกันมันไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำทุกอย่างในเวลาเดียวกันหรือพร้อมๆ กัน คงไม่มีใครที่โทรศัพท์ข้างหนึ่งยกหูคุยเรื่องงานแต่อีกข้างหนึ่งโทรศัพท์หาพ่อแม่ที่บ้านด้วยความห่วงใย เพราะในความเป็นจริงเราต้องเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลานั้นให้สำเร็จ ก่อนจะทำอย่างต่อไป เพราะฉะนั้น ในแง่ปฏิบัติมันอาจกลายเป็น ‘Work-Life Priority’ คือการจัดลำดับก่อน-หลังของแต่ละอย่างที่ต้องทำในชีวิตต่างหาก


5. Work-Life Balance ขึ้นอยู่กับความพอใจ หลายครั้งที่เราเห็นโฆษณาหรือเห็นภาพคนที่อยู่ในสื่อแล้วเขามีหลายบทบาท เป็นเจ้าของกิจการที่ดี เป็นสามีที่ดี เป็นลูกที่ทำให้พ่อแม่มีความสุข จนบางครั้งเราติดภาพนั้นและคิดว่าคนที่ทำได้อย่างนั้นคือคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งในความจริงอาจไม่ใช่เลย เพราะชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน ที่เขาประสบความสำเร็จนั้นอาจมีปัจจัยเกื้อหนุนมากมาย เช่น เขาอาจมีลูกน้องที่ช่วยทำงานหลายสิบคน เลยมีเวลาไปดูแลครอบครัวได้ หรือไม่เขาอาจมีพ่อแม่ที่แข็งแรงสามารถดูแลตัวเอง เลยมีเวลาทุ่มเทให้กับงานเต็มที่ เพราะฉะนั้นแล้วอย่ายึดภาพความสำเร็จนั้นจนเกินไป แต่อยากให้ลองกลับมามองตัวเองว่า ในแต่ละด้าน แต่ละบทบาท เราพอใจกับมันหรือยัง ถ้าเราพอใจและคิดว่ามีความสุขแล้ว ก็ไม่ต้องสนใจภาพความสำเร็จที่หลายคนประโคมอยู่ก็ได้ เราอาจเป็นลูกที่ละเลยพ่อแม่บ้าง แต่เมื่อไรที่เรารู้ตัว เรามีเวลา เราก็ดูแลท่านอย่างเต็มที่ หรือช่วงเวลาที่อยู่กับคนรัก เราอาจแอบเอางานมาทำบ้างเพราะพรุ่งนี้จะมีพรีเซนต์ใหญ่ที่ต้องทำให้เสร็จ มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะในความเป็นจริงแล้วแทบไม่มีมนุษย์คนไหนที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านตลอดเวลา กุญแจสำคัญมันขึ้นอยู่กับว่าเราพอใจตัวเองที่เป็นอยู่ทุกวันนี้หรือเปล่า


สิ่งที่อยากทิ้งท้ายคือ Work-Life Balance คือเรื่องของคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ ไม่ได้หมายความว่าเราทำงานและมีงานอดิเรกอีกสิบอย่างแล้วชีวิตจะดี หรือไม่ใช่ว่าเราทำงานสิบอย่างพร้อมกับดูแลพ่อแม่ได้เราก็อาจไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ เพราะการทำให้ชีวิตสมดุลคือเรื่องของคุณภาพ บางช่วงเวลาที่เราต้องก้มหน้าก้มตาทำงานหนักทั้งเดือนเพราะมีงานใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบ และมีเวลาพักผ่อนเพียง 5 วัน แต่ถ้าเราสามารถทำ 5 วันนั้นให้เป็นวันหยุดที่มีคุณภาพ ได้ใช้เวลากับคนรัก ได้พาพ่อแม่ไปทานข้าวนอกบ้าน ทุกคนมีความสุขและพอใจในทุกฐานะที่เราเป็น ความสมดุลทุกอย่างอาจเกิดขึ้นจริงได้ด้วยเช่นกัน


ถึงแม้ว่า New Normal ในครั้งนี้ เราต้องปรับอะไรหลายๆอย่าง หากทำตามคำแนะนำจากเรา รับรองจะทำให้เรามีชัยกว่าคู่แข่งคนอื่นแน่นอน แวะมาฝากประวัติกับเราได้เลยที่
JOBGATE



URL COPIED SUCCESS

ลงทะเบียนกับเรา


  •   สร้างเรซูเม่ของคุณ และกดค้นหางาน ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก
ลงทะเบียน

คุณมีความคิดที่จะเปลี่ยนงาน?


  •   คุณสามารถค้นหางานหรือเปลี่ยนงานง่ายๆ เพียงฝากประวัติไว้กับเรา
ฝากประวัติ

รับในเสนอราคา


  •   แพคเกจที่คุ้มค้่ที่สุดสำรับองค์กรของคุณ
แนะนำแพคเกจ

หาผู้ร่วมงานกับองค์กร


  •   หากคุณเป็นบริษัทและต้องการจะลงตำแหน่งงานกับเรา
ลงตำแหน่งงาน

ลงทะเบียนกับเรา


  •   สร้างเรซูเม่ของคุณ และกดค้นหางาน ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก
ลงทะเบียน

คุณมีความคิดที่จะเปลี่ยนงาน?


  •   คุณสามารถค้นหางานหรือเปลี่ยนงานง่ายๆ เพียงฝากประวัติไว้กับเรา
ฝากประวัติ

รับในเสนอราคา


  •   แพคเกจที่คุ้มค้่ที่สุดสำรับองค์กรของคุณ
แนะนำแพคเกจ

หาผู้ร่วมงานกับองค์กร


  •   หากคุณเป็นบริษัทและต้องการจะลงตำแหน่งงานกับเรา
ลงตำแหน่งงาน

เทคนิค ชิวิตทำงาน

การทำงานกับสีเสื้อมงคล

อ่านต่อ

ไอเดียการแต่งตัวไปทำงาน_หญิง

อ่านต่อ

อุปกรณ์ออฟฟิศดีลเด็ด

อ่านต่อ

แนะนำหนังปลุกใจ

อ่านต่อ

การสัมภาษณ์งานเปรียบเสมือนด่านที่สองนับจาก...

อ่านต่อ

ในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันที่นับวันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น

อ่านต่อ

เก็งคำถามสัมภาษณ์แนะนำตัวเอง

อ่านต่อ

เรียนจบมาแล้วทำอะไรต่อ

อ่านต่อ

Golden hour blog

อ่านต่อ

4-ข้อสำคัญก่อนเริ่มหางาน

อ่านต่อ

เคล็ดลับ-first-impresion

อ่านต่อ

One-Page Resume

อ่านต่อ

เตรียมพร้อมสัมภาษณ์ออนไลน์

อ่านต่อ

ค่าแรงขั้นต่ำ

อ่านต่อ

การเขียนอีเมล์สมัครงาน

อ่านต่อ

5 แนวคิดที่จะทำให้ชีวิตและการทำงานมีความสุข

อ่านต่อ

เคล็ดลับ หาและเลือกงานที่ใช่สำหรับตัวเอง

อ่านต่อ

สร้างความมั่นใจไปคว้างาน

อ่านต่อ

ไม่ว่าจะสัมภาษณ์งานในรูปแบบไหน

อ่านต่อ

มนุษย์เป็ดที่เข้าใจและทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เก่งให้สุดสักทาง

อ่านต่อ